จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559


สรุป VDO การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

เรื่อง  สอนวิทย์คิดสนุกกับเด็กปฐมวัย
โดย  คุณครูกรรณิการ์ เฉิน

คลิ๊ก!!เพื่อรับชมVDO

              สอนวิทย์คิดสนุกกับเด็กปฐมวัย  เป็นการนำเสนอสื่อการทดลองวิทยาศาสตร์ของ คุณครูกรรณิการ์ เฉิน เพื่อเป็นเทคนิคในการพัฒนาการของเด็กปฐมวัยโดยใช้วัสดุรอบตัว โดยใช้น้ำตาลก้อนหยดสีลงไปแล้วดูการเปลี่ยนแปลง การใช้กระดาษทิชชูอธิบายความลับของสีดำซึ่งมีสีอื่นๆ ซ่อนอยู่มากมาย หรือการอธิบายเรื่องแรงตึงของผิวน้ำโดยใช้อุปกรณ์ง่ายๆ ที่อยู่รอบตัวในการอธิบายให้เห็นภาพ และเข้าใจได้ง่ายๆ  เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เด็กๆได้ปฏิบัติจริงที่สำคัญครูต้องป้อนคำถามให้เกิดการเรียนรู้ให้ได้และครูก็ต้องมีทักษะในการถาม เด็กจึงเกิดการเรียนรู้อย่างสมบูรณ์  นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกให้เด็กได้หาเหตุผลจากความคิดของตนเองและยอมรับเหตุผลของผู้อื่น  การที่เด็กได้รู้จักคิดเองหรือใช้ความคิดของตนเองในการทำกิจกรรมจะส่งผลให้เด็กเข้าใจในสิ่งที่ทำได้มากขึ้นและจดจำได้เป็นอย่างดี

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ตัวการ์ตูน เคลื่อนไหว

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559


สรุปบทความวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย

เรื่อง  สอนลูกเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Teaching Children about Environment Conservation)
ผู้เขียน  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บุบผา เรืองรอง อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช


สอนลูกเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

            สอนลูกเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Teaching Children about Environment Conservation) หมายถึงการจัดกิจกรรมให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้สิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัวของคนเราอย่างฉลาด และพัฒนาสิ่งแวดล้อมทั้งสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตจับต้องได้และจับต้องไม่ได้ เช่น สัตว์ พืช อากาศ ภูเขา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะมีอิทธิพลและส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็น อยู่ของคนเรา เพราะการดำรงชีวิตของคนต้องพึ่งสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและต่อเนื่องไปถึงอนาคต แต่เมื่อคน เราใช้สิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ประกอบกับความเป็นอยู่ของคนเรามีเครื่องอำนวยความสะดวก แต่กลับให้โทษต่อสิ่งแวดล้อม จึงเป็นปัญหาที่คนในสังคมได้มาศึกษาหาทางใช้สิ่งแวดล้อมอย่างฉลาดและต้องพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพ เพื่อสร้างเสริมประโยชน์แก่มนุษย์ตลอดไปเรียกว่า การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยวิธีการให้ความรู้ ปลูกฝังทัศนคติที่ดี และเน้นการปฏิบัติร่วมกันทั้งสังคมโดยเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก
            สรุปเกร็ดความรู้             
        การเรียนรู้เรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของเด็กจะเกิดขึ้นได้ผลอย่างยั่งยืน เพราะสภาพแวดล้อมในโรงเรียนเป็นธรรมชาติให้เด็กได้สัมผัส ให้เด็กได้เห็นได้กลิ่นได้รู้จักสิ่งที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้น เช่น อากาศ ลำธาร เป็นต้น และสภาพภายนอกห้องเรียนจะมีระบบนิเวศที่เด็กพบเห็นได้เสมอ เช่น มีบริเวณของไม้พุ่มหลากหลายชนิดที่นกสามารถเข้าไปนอนและทำรังได้ ทำรั้วต้นไม้ที่ให้ร่มเงาให้เด็กเข้าไปนั่งเล่น ให้เห็นว่าต้นไม้เป็นที่อาศัยของสัตว์และพืช และต้นไม้ให้วัสดุที่เด็กนำมาเล่นได้ เช่น ลูกยาง ฝักถั่ว กิ่งไม้ ใบไม้ เป็นต้น
        จัดประสบการณ์ตรงให้แก่เด็ก เช่น การใช้น้ำอย่างประหยัด การดูแลต้นไม้ การกำจัดขยะ การลดขยะ การใช้ขยะให้เกิดประโยชน์ การรักษาอากาศให้สะอาด การเลือกกินอาหารจากพืชเพื่อให้เห็นคุณค่าของธรรมชาติ เป็นต้น
        วัฒนธรรมประเพณีไทยเป็นสิ่งแวดล้อมที่ควรแก่การอนุรักษ์ เนื่องจากวัฒนธรรมประเพณีเกิดจากสังคมได้ตระ หนักถึงคุณค่าของการใช้ธรรมชาติเป็นปัจจัยของชีวิต




สรุปงานวิจัยวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย

เรื่อง  การพัฒนาแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
สำหรับนักเรียนระดับปฐมวัย

ผู้เขียน   ประภาพร เทพไพฑูรย์

คลิ๊กอ่าน!!! งานวิจัย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ตัวการ์ตูน เคลื่อนไหว
  • ความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
เพื่อพัฒนาแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนระดับ
ปฐมวัยในประเด็นต่อไปนี้
1. หาคุณภาพแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนระดับ
ปฐมวัย
2. สร้างเกณฑ์ปกติ (norms) และคู่มือการใช้แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนระดับปฐมวัย
  • ความสำคัญของการศึกษาค้นคว้า
1. ทำให้ได้แบบทดสอบที่มีคุณภาพไปใช้ในการวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ของนักเรียนระดับชั้นปฐมวัย เพื่อปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครูผู้สอนระดับปฐมวัย
และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาต่อไป
2. ผลของการวิจัยครั้งนี้ เป็นแนวทางในการสร้างและพัฒนาแบบทดสอบวัดทักษะด้าน
อื่น ๆ ต่อไป
  • ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
1. ประชากรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นปฐมวัย ปีที่ 2 ภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา 2548 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1 จำนวน
2,939 คน (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1. 2547 : 1)
2. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นปฐมวัย ปีที่ 2 ภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา 2548 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1 จำนวน 375
คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (multi - stage random sampling)
3. เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาเป็นแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
จำนวน 7 ฉบับ คือ
3.1 แบบทดสอบทักษะการสังเกต
3.2 แบบทดสอบทักษะการวัด
3.3 แบบทดสอบทักษะการจำแนกประเภท
3.4 แบบทดสอบทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างมิติกับมิติ
3.5 แบบทดสอบทักษะการใช้ตัวเลข
3.6 แบบทดสอบทักษะการสื่อความหมายจากข้อมูล
3.7 แบบทดสอบทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
4. คุณภาพของแบบทดสอบ
4.1 ความเที่ยงตรง (validity)
4.1.1 ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity)
4.1.2 ความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้าง (construct validity)
4.2 ความยากง่าย (difficulty)
4.3 อำนาจจำแนก (discrimination)
4.4 ความเชื่อมั่น (reliability)
4.5 เกณฑ์ปกติ (norms)
  • วิธีดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล
เก็บรวบรวมข้อมูลตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ติดต่อโรงเรียนที่ใช้เป็นกลุ่มตัวอย่าง ขออนุญาตผู้บริหารโรงเรียนเพื่อกำหนดวันและ
เวลาดำเนินการสอบ
2. เตรียมแบบทดสอบให้เพียงพอกับจำนวนนักเรียนที่สอบในแต่ละครั้ง และวางแผน
ในการดำเนินการสอบ
3. อธิบายให้ผู้ดำเนินการสอบเข้าใจวัตถุประสงค์และผลที่ได้รับจากการทำแบบทดสอบ
  • การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้
เครื่องมือโดยหาคุณภาพเครื่องมือ ดังนี้
1. ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity) ใช้วิธีการให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและ
นำผลคะแนนที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญคำนวณหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC : index of item -
objective congrucnec) (ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. 2539 : 246)
2. ความยากง่ายรายข้อโดยใช้เทคนิค 27 เปอร์เซ็นต์ คำนวณโดยใช้สูตรอย่างง่าย
(ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. 2538 : 115)
3. อำนาจจำแนกรายข้อ โดยใช้เทคนิค 27 เปอร์เซ็นต์ คำนวณโดยใช้สูตรอย่างง่าย
(ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. 2538 : 216)
4. ความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้าง (construct validity) โดยตรวจสอบสัมประสิทธิ์ความ
สอดคล้องภายในระหว่างคะแนนเป็นรายข้อกับคะแนนรวมทั้งฉบับ (item - total correlation) ด้วย
สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson,s product - moment correlation coeffcient)
(ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. 2536 : 168)
5. ความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ (reliability) ใช้วิธีการของคูเดอร์ริชาร์ดสัน
(Kuder Richardson) สูตร KR-20 (ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. 2538 : 168)
6. สร้างเกณฑ์ปกติ (norms) ผู้วิจัยได้นำคะแนนของแบบทดสอบแปลงให้เป็นคะแนน
ที่ปกติและปรับขยายโดยวิธีกำลังสองต่ำสุด (เสริม ทัศศรี. 2545 : 116 - 120)
  • เครื่องมือที่พัฒนา
เครื่องมือที่พัฒนาขึ้นเป็นเครื่องมือวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียน
ระดับปฐมวัย ประกอบด้วย
1. แบบทดสอบทักษะการสังเกต
2. แบบทดสอบทักษะการวัด
3. แบบทดสอบทักษะการจำแนกประเภท
4. แบบทดสอบทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างมิติกับมิติ


ภาพตัวอย่างแบบทดสอบ